ป้ายกำกับ: พรีเมียร์ลีก

เชลซี กำลังเดินหน้าเจรจาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะยืมตัว ชูเอา เฟลิกซ์ มาจาก แอตเลติโก มาดริด ซึ่งในตอนนี้ดูเหมือนว่า เชลซี จะเป็นทีมที่ได้เปรียบกว่าทีมอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก ที่อยากจะเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้อย่าง อาร์เซนอล แต่ว่าในตอนนี้ก็ยังไม่มีทีมไหนที่ต้องการจ่ายเงินมูลค่า 11 ล้านยูโร เพื่อยืมตัว ชูเอา เฟลิกซ์ ไปร่วมทีมด้วย

ชูเอา เฟลิกซ์ เป็นหนึ่งผู้เล่นที่มีศักยภาพที่จะสามารถเข้ามาทำให้ทีมของ เกรแฮม พอตเตอร์ มีตัวเลือกในแนวรุกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นปัญหาสำคัญสำหรับฟอร์มที่ย่ำแย่ของ เชลซี ในปัจจุบันนี้ โดย เชลซี สามารถทำประตูไปได้เพียง 20 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่นไปทั้งหมด 17 นัดใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ แม้ว่าในตอนนี้ตลาดซื้อขายนักเตะจะเพิ่งเปิดได้เพียงสัปดาห์เดียว แต่ เชลซี ก็ได้มีการเซ็นสัญญากับผู้เล่นไปบ้างแล้วในเดือนมกราคม โดยตอนนี้พวกเขาได้มีการเซ็นสัญญากับ เบอนัวต์ บาเดียชิเล, ดาวิด ดาโตร โฟฟานา และ อันเดรย์ ซานโตส

เกรแฮม พอตเตอร์ คาดหวังว่าผู้เล่นที่พวกเขาจะนำเข้ามาจะสามารถช่วยพัฒนาฟอร์มการเล่นของทีมของเขาได้ ซึ่งตอนนี้ทีมของเขาชะนไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นจากการลงเล่นใน 7 นัดล่าสุดในการแข่งขันทุกรายการ และปัจจุบัน เชลซี ก็อยู่อันดับที่ 10 ของตารางคะแนนใน พรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มห่างจากทีมในท็อปโฟร์ถึง 10 คะแนน และพวกเขาก็ตกรอบจากการแข่งขัน เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ความหวังเดียวที่เหลืออยู่อย่างแท้จริงของสโมสรจากลอนดอนตะวันตกในการคว้าถ้วยแชมป์ในฤดูกาลนี้คือ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งพวกเขาจะเผชิญหน้ากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายในเดือนหน้า ซึ่งก็นับเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากทีมนึงจากทางฝั่ง บุนเดสลีกา ที่มีผู้เล่นดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม ร่วมทีมอยู่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดการณ์ว่า อารอน วาน-บิสซาก้า จะออกจากสโมสรในเดือนมกราคมนี้ และกำลังพิจารณาทางเลือกของพวกเขาในปัจจุบันเกี่ยวกับตัวเลือกที่พวกเขาจะเลือกมาแทนที่นักเตะหนุ่มรายนี้ โดยทางด้านของ อารอน วาน-บิสซาก้า ไม่ได้ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยตั้งแต่ที่ เอริค เทน ฮาก ย้ายเข้ามาคุมทีม และเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มรายนี้ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์จาก คริสตัล พาเลซ ในปี 2019

อารอน วาน-บิสซาก้า ได้เสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ ดิโอโก้ ดาโลต์ ที่กำลังฟอร์มตกเป็นอย่างมากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเป็นทางด้านของ ไทเรลล์ มาลาเซีย ผู้เล่นที่ถนัดเท้าซ้ายก็มักจะถูกใช้งานเป็นผู้เล่นสำรองมากกว่า อารอน วาน-บิสซาก้า สำหรับในตอนนี้ คริสตัล พาเลซ อดีตสโมสรเก่าของเขาก็ได้รับการพิจารณาว่าน่าจะเป็นทีมที่น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดของแข้งวัย 25 ปี และยังคงเป็นเช่นนั้น ซึ่งการที่เขาย้ายกลับไปยังทีมเก่าอาจจะทำให้เขาสามารถเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาได้อีกครั้ง

หลายคนคงรู้ดีกันอยู่แล้วจากหลายๆ เกมที่ผ่านมาว่า เอริค เทน ฮาก มีความเชื่อมั่นในตัวของ ดิโอโก้ ดาโลต์ ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล และสำหรับตอนนี้พวกเขาอาจจะกำลังมองหาผู้เล่นคนใหม่ในตำแหน่งนี้เข้ามาร่วมทีม ซึ่ง ดิโอโก้ ดาโลต์ เองก็ต้องดิ้นรนมากขึ้นกับผู้เล่นคนใหม่ที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งของเขาสำหรับการแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงในสนาม

ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กำลังพิจารณาอย่างหนักที่จะมองหานักเตะเข้ามาเสริมทีมในหลายๆ ตำแหน่งที่ยังเป็นจุดอ่อนของสโมสรอยู่ โดยในตอนนี้เท่าที่มีข่าวลือออกมาก็มีผู้เล่นหลายคนที่มีโอกาสย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็น เจเรมี ฟริมปง ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ เดนเซล ดัมฟรีส์ ของ อินเตอร์ มิลาน ที่อาจจะเป็นบิ๊กดีล นอกจากนี้ยังมี ยอซิป ยูรานอวิช ของ เซลติก และ มาโล กัสโต ของ ลียง ด้วย

เอฟเวอร์ตัน ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว เจมส์ การ์เนอร์ นักเตะกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้นักเตะหนุ่มวัย 21 ปีรายนี้ได้ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ น็อตติงแฮม ฟอรเรสต์ เป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาลครึ่ง และเขาจะเซ็นสัญญากับ เอฟเวอร์ตัน เป็นระยะเวลา 4 ปี และเขาจะอยู่ที่ กูดิสัน ปาร์ค จนถึงช่วงซัมเมอร์ในปี 2026

เจมส์ การ์เนอร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของ เอฟเวอร์ตัน ว่า “ผมพร้อมแล้วที่จะเซ็นสัญญากับ เอฟเวอร์ตัน นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการเล่นฟุตบอลอาชีพของผม และผมต้องการช่วยให้ทีมดีขึ้น และพัฒนาฝีมือของตัวเองในฐานะผู้เล่น ผมคิดว่า เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่ดี และเป็นทีมที่สามารถช่วยพัฒนาซักยภาพของผมได้ และตอนนี้ผมอยากจะเริ่มลงเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน แล้ว”

“ก่อนเซ็นสัญญาผมได้มีการพูดคุยกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด (ผู้จัดการทีมของ เอฟเวอร์ตัน) ผมคิดว่าผมน่าจะเข้ากับสไตลืการเล่นของเขาได้ดี ผมมองว่าการทำงานกับเขาในทุกๆ วันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผม และผมเชื่อว่าผมจะสามารถพาทีมให้ก้าวไปอีกระดับได้ และผมหวังว่าแฟนบอลจะประทับใจกับผลงานในอนาคตของผม”

เจมส์ การ์เนอร์ ได้เข้าร่วมทีมอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี และเขาก็ได้ก้าวขึ้นมาติดในทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ด้วยวัย 17 ปีในตอนนั้น โดยเขาได้มีโอกาสลงเล่นครั้งแรกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ ในปีนั้น และหลังจากนั้นเขาก็ได้ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ วัตฟอร์ด ในปี 2020 และเป็นผู้เล่นที่หลายๆ ทีมอยากจะได้ไปร่วมทีมด้วยนับตั้งแต่นั้นมา

การเตรียมทีมของ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก ในเกมกับ เรอัล มาดริด ใน ปารีส นั้นถูกครอบงำด้วยคำพูดของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นักเตะทีมชาติอียิปต์ของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่เขาได้ประกาศกร้าวว่าเขาต้องการล้างตากับ เรอัล มาดริด หลังจากที่ทั้งสองทีมเคยพบกันมาแล้วในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีก่อนที่ เคียฟ ซึ่งในเกมเป็นทางด้านของ เรอัล มาดริด ที่สามารถเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 และคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่เคยลืมเพราะมันทำให้เขาต้องเดินออกจากสนามทั้งน้ำตา

แต่เขาไม่ใช่ผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล คนเดียวที่ต้องการล้างแค้นที่ สตาด เดอ ฟรองซ์ ในช่วงเดือนเมษายน 2021 ลิเวอร์พูล ต้องเผชิญกับที่นั่งลำบากหลังจากที่เขาต้องเสียเปรียบในรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยการพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ไปก่อนในเกมเลกแรก ซึ่งในฤดูกาลนั้น ลิเวอร์พูล ต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนออกมา และมาแออัดกันอยู่ในช่วงท้ายฤดูกาล

เจอร์เก้น คล็อปป์ อธิบายก่อนการแข่งขันว่า “ผมไม่สามารถเลี่ยงที่จะใช้งาน นาบี เกอิต้า ได้อีกต่อไป ผลงานจากการฝึกซ้อมของเขาแสดงให้ผมเห็นว่าเขาเป็นนักเตะอีกคนที่พร้อมจะลงสนามช่วยทีม และนี่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ฟอร์มการเล่นของเขากำลังพีค และผมหวังว่าเขาจะนำสิ่งพิเศษเข้ามาให้กับทีมของเรา”

งานนี้ระดับเซียนอย่าง จ่ามู ก็เอาไม่อยู่ซะแล้ว เพราะ คริสเตียน อีริคเซน หวังที่จะอำลา สโมสรอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นในช่วงตลาดฤดูหนาว หรือหลังปิดฤดูกาลนี้ เพราะอยากจะหาความท้าทายใหม่แต่กับสำหรับการลงสนาม ในสีเสื้อของท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ เจ้าตัวเกล่าวว่าเขายังจะทำเต็มที่
อยู่เหมือนเดิม

เพราะเขาเป็นมืออาชีพ แต่จะให้อยู่ต่อนั้นคงจะไม่ เพราะมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม และต้องการหาความท้าทายใหม่ ดังนั้นสโมสรก็น่าจะพอใจกับข้อเสนอของหลายทีม ที่มีติดต่อเข้ามา และสัญญากับเขาก็จะจบลงหลังสิ้นฤดูกาลนี้

ทำให้กูรมองว่าหากสโมสรอยากได้กำไรก็ควรจะปล่อยเขาตั้งแต่ช่วงฤดูหนาว แต่หากจะให้เขาอยู่เป็นกำลังสำคัญของทีมเจ้าตัวเองก็ยอมรับ แต่จะออกเป็นฟรีเอเยนต์ทันทีหลังหมดสัญญา

แฟรงค์ แลมพาร์ กุนซือของสโมสร เชลซี ออกมากล่าวผ่านสื่อว่า สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้อยู่ในโมเมนตัมที่ดี แม้ว่าจะมีแพ้บ้างชนะบ้าง แต่นักเตะทุกคนพร้อมที่จะสู้ในทุกๆเกม และเกมฟุตบอลมันก็แบบนี้มีวันที่ดีและมีวันที่ย่ำแย่ แต่เราก็จะไม่ท้อ และสำหรับอันดับในตอนนี้ เชลซียังอยู่ที่อันดับที่ 3
โดยลงแข่งมา 12 เกมชนะ 8 เสมอ 2 แพ้ 2 มี 26 คะแนนก็ยังถือว่าเป็นหลุ่มหัวตาราง แต่ แรมพาร์ด

บอกว่าเรายังไม่อยากจะบอกว่า เรากำลังลุ้นแชมป์ เพราะคู่แข่งของเราถือว่าไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นลิเวอร์พูล ที่มีเกมที่ยอดเยี่ยม เลสเตอร์ซิตี้ก็ทำผลงานแซงหน้าเราไป หรือแม้แต่แมนเชสเตอร์ซิตี้ก็พร้อมที่จะขยับเบียดเรา และยังมีอีกหลายทีมไม่ว่าจะเป็นทีมอันดับที่ 5 อย่างเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดอันดับที่ 6 อย่างอาร์เซนอล ทุกทีมมีผลงานที่เหลือเชื่อ

แต่ทุกนัดเราไม่ประมาท ไว้ให้ถึงช่วงปลายฤดูกาล คะแนนผลการแข่งขันทั้งหมดมันจะบอกพวกคุณเองว่าใครคือแชมป์ แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้คือทำทีมออกมาให้ดีที่สุด หวังชัยชนะในทุกเกมและเรามั่นใจว่าผลตอบแทนที่เราทั้งทีมทุ่มให้กับเกมการแข่งขันฟุตบอล ก็จะออกมาเป็นที่น่าพอใจ และแฟนบอลก็ยังจะสนับสนุนเราต่ออย่างแน่นอน

แกรม ซูเนส ตำนานดาวเตะชาวสก็อตของ ลิเวอร์พูล กล่าวถึง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าของทีม หงส์แดง ที่กำลังจะย้ายออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัวหลังจากที่จะหมดสัญญาลงในช่วงซัมเมอร์นี้ว่า สเตอร์ริดจ์ ต้องรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ชีวิตการค้าแข้งอันรุ่งโรจน์ของเขากำลังจะจบลงหลังจบฤดูกาลนี้

‘กุนซือหนวดหิน’ ยังกล่าวต่อไปว่าสาเหตุที่ ‘เต้ยโศก’ ต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องมาจากการที่เขาวอร์มอัพก่อนลงสนามไม่เต็มที่ ซึ่งทำให้อาชีพการค้าแข้งของเขานั้นไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควรทั้ง ๆ ที่เป็นนักเตะที่มีฝีเท้าดีคนหนึ่งของวงการ

ซูเนส กล่าวหลังเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ นิวคาสเซิล ได้ 3-2 โดยเกมนี้กองหน้าวัย 29 ปีได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง “เขาคือหนึ่งในนักเตะที่กำลังจะจบอาชีพการค้าแข้งของตัวเอง เมื่อเขามองย้อนกลับไปและคิดว่า ‘นี่ผมไม่ได้ใช้ในสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เลยหรือ’ ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง มีการสัมผัสบอลที่ยอดเยี่ยม เมื่อคุณมีนักเตะแบบเขา นักเตะที่มีความสามารถอันล้นเหลือในการฝึกซ้อม คุณอาจจะคิดว่า ‘ทำไมเขาถึงเป็นนักเตะที่ไร้ซึ่งพลังในวันที่มีการแข่งขันแบบนี้’ ”

นอกจากนั้น ซูอี้ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่มาของอาการบาดเจ็บของดาวเตะ เดอะเร้ดส์ ว่ามีสาเหตุมาจากการวอร์มไม่ถึงก่อนลงสนาม

“ผมได้ดูเกมหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดูการวอร์มร่างกาย ตลอดจนการเคลื่อนไหวในการวอร์มของเขา ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณจึงได้รับบาดเจ็บเมื่อลงสนามเป็นตัวสำรองอยู่บ่อย ๆ ผมอาจจะผิดก็ได้ เพราะตอนซ้อมเขาอาจจะโชว์ฟอร์มได้ดี แต่เขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถมากมาย เขาจะปิดฉากการค้าแข้งและรู้สึกโกรธตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้”

วิลฟรีด ฮาซา สยบข่าวลือกับ เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จรดปากกาต่อสัญญากับ คริสตัล พาเลซ ออกไปอีก 5 ปี และทำให้ปีกทีมชาติไอวอร์รีโคสต์ จะอยู่กับทีม “เดอะ พาเลซ” ไปจนถึงปี 2022-23 ปีกวัย 25 ปี มีข่าวเชื่อมโยงกับสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอนอย่างหนักในซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ตัดสินใจอยู่ค้าแข้งกับทีมที่สร้างเขาขึ้นมาต่อไป ซาฮาลงเล่นให้กับ คริสตัล พาเลซ ทั้งหมด 288 เกม และทำไปทั้งหมด 44 ประตู หลังจากขึ้นทีมชุดใหญ่ในปี 2010 และเริ่มต้นฤดูกาล 2018-19 ด้วยชัยชนะ อีกทั้งยังเป็นผู้ทำประตูพาทีมเอาชนะฟูแล่มไป 2-0

“ผมยินดีมากๆ ผมแค่อยากจะจัดการปัญหาทั้งหมดและโฟกัสกับฤดูกาลใหม่ ผมดีใจที่เราสามารถจัดการกับเรื่องสัญญาของผมได้เสียที”

สตีฟ พาร์ริช เจ้าของทีมคริสตัล พาเลซยังเสริมอีกว่า “วิลฟรีดเติมโตมากับสโมสรแห่งนี้ตอนอายุแค่ 4 ขวบ และเราก็มาอยู่กับเราตอนอายุ 12 ปี สัญญาฉบับนี้มีตัวอย่างของคำมั่นสัญญาที่เขามอบให้กับสโมสร และสโมสรมอบให้กับเขา วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่พาเลซ แฟนๆของเราและรวมไปถึงตัวเขาเองด้วย เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาคู่ควร”

ซาฮา เคยย้ายไปอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2013-14 ก่อนจะกลับมาที่พาเลซ และกลายมาเป็นนักเตะที่พวกเขาจะขาดไม่ได้ และเขาก็ตอบแทนสโมสรด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมาตลอด 12 เดือนหลัง

อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสเปนของ อาร์เซน่อล ได้ออกมายอมรับว่านักเตะบางคนในทีมต้องย้ายออกไปในซัมเมอร์นี้เพื่อเป็นระบายนักเตะออกไปบ้างเพราะที่มีอยู่มันล้นเกินไปและจะเป็นการพดุงการเงินของสโมสรไปในตัวอีกทาง

เอเมรี่ ที่พึ่งเข้ามารับงานให้กับทีมได้ปีแรกเสริมทัพนักเตะเข้ามาใหม่หลายต่อหลายคน สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์, โซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส, แบรนด์ เลโน่, ลูคัส ตอร์เรร่า และ มัตเตโอ เก็นดูซี่ และยังมีข่าวกับนักเตะใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีนักเตะใหม่เข้ามากุนซือวัย 46 ปีก็ยอมรับว่าต้องปล่อยนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมทิ้งไปบ้างเพราะตอนนี้ทีมใหญ่เกินไป

“ตอนนี้ทีมเรามีขุมกำลังที่ใหญ่ขึ้นมากและต้องปล่อยนักที่ไม่ได้ใช้งานออกไปบ้างและมันเป็นมันส่วนหนึ่งของงานผมเช่นกันในการจัดการส่วนนี้” โค้ชชาวสเปนกล่าว

ซึ่งนักเตะที่เป็นข่าวจะย้ายออกก็มี มุสตาฟี่ กองหลังทีมชาติเยอรมันที่กำลังมีข่าวกับหลายทีมทั้ง สเปน อิตาลี และเยอรมัน ส่วนทางด้าน ออสปิน่า นายทวารจอมเก๋าก็มีข่าวหลายทีมอยากได้เช่นกัน รวมไปถึง แดนนี่ เวลเบ็ค, เบเยริน รวมถึง แรมซี่ อีกด้วย